วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2559

นครรัฐวาติกัน,ประเทศอิตาลี(State of the Vatican City)

นครรัฐวาติกัน (อังกฤษ: State of the Vatican City; อิตาลี: Stato della Città del Vaticano) เป็นนครรัฐที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลซึ่งน้อยที่สุดในโลกทั้งในแง่พื้นที่และประชากร ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ศูนย์กลางคือมหาวิหารนักบุญเปโตร ซึ่งออกแบบโดยมีเกลันเจโล การปกครองเป็นแบบอำนาจเบ็ดเสร็จ อำนาจตกอยู่ที่พระสันตะปาปาเพียงผู้เดียว จะหมดวาระก็ต่อเมื่อสิ้นพระชนม์ ปัจจุบัน สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556
ประวัติศาสตร์
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1929 นครรัฐวาติกันและอิตาลีได้ลงนามสนธิสัญญายอมรับสถานะของนครรัฐวาติกันเป็นรัฐเอกราชมีอำนาจอธิปไตยของตนเอง ตั้งแต่ ค.ศ. 1960 นครรัฐวาติกันได้รับการจารึกให้เป็นดินแดนที่จะต้องได้รับการปกป้องรักษาไว้เป็นพิเศษในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งทางอาวุธ (International Register of Cultural Works under Special Protection in Case of Armed Conflict) เนื่องจากเป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรมของโลก มีหอสมุดอันเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 (the Apostolic Library of the Vatican)
ต่อมา ในศตวรรษที่ 15 ได้มีการจัดตั้งหอจดหมายเหตุนครรัฐวาติกัน (Secret Archive of the Vatican) พิพิธภัณฑ์วาติกัน มหาวิหารนักบุญเปโตร และมีสำนักพิมพ์ของตนชื่อ the Vatican Polyglot Press ซึ่งเป็นที่จัดพิมพ์ผลงานภาษาต่างๆ รวมทั้งออกหนังสือพิมพ์รายวัน Observatore Romano ซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่ ค.ศ. 1861 และตั้งแต่ ค.ศ. 1931 นครรัฐวาติกันได้จัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียง ถ่ายทอดเสียงภาษาต่างๆ ถึง 30 ภาษา ปัจจุบัน นครรัฐวาติกันมีสถานีวิทยุกระจายเสียง 3 สถานี สถานีโทรทัศน์ 1 สถานี
รัฐบาล
พระสันตะปาปา
พระสันตะปาปาทรงอำนาจสูงสุดทั้งด้านนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ พระสันตะปาปาองค์ล่าสุด คือ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ชาวอาร์เจนตินาเชื้อสายอิตาลี ทรงได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556 โดยคณะพระคาร์ดินัล (College of Cardinals) ซึ่งเป็นสภาที่ปรึกษาของสมเด็จพระสันตะปาปา โดยพระคาร์ดินัลที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปีเท่านั้นจึงจะมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง พระสันตะปาปาที่ทรงได้รับเลือกตั้งแล้วตามปกติจะอยู่ในตำแหน่งไปจนตลอดพระชนม์ชีพ เว้นแต่จะมีการสละตำแหน่งพระสันตะปาปา ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ก่อนหน้านี้คือสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16ได้สละตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
การบริหารศาสนจักร
การบริหารศาสนจักรเป็นหน้าที่ของสภาปกครองโรมัน (the Roman Curia) หรือสำนักงานบริหารศาสนจักรส่วนกลาง ซึ่งมักเรียกว่าสันตะสำนัก (Holy/Apostolic See) มีหน่วยงานหลักคือ สำนักเลขาธิการแห่งรัฐ (Secretariat of State) รับผิดชอบการบริหารประเทศ โดยมีพระคาร์ดินัลเลขาธิการแห่งรัฐ (Cardinal Secretary of State) เป็นหัวหน้า (เทียบเท่านายกรัฐมนตรี) มีหน้าที่รับผิดชอบกิจการด้านการเมืองและการทูตของนครรัฐวาติกัน
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2531 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ทรงปรับโครงสร้างของสำนักเลขาธิการแห่งรัฐ โดยแบ่งเป็น 2 หน่วยงาน คือ
1. The Section for General Affairs หรือ The First Section รับผิดชอบด้านการบริหารของศาสนจักรและดูแลสถานทูตต่าง ๆ ประจำนครรัฐวาติกัน หัวหน้าหน่วยงาน คือ The Substitute for General Affairs และมีผู้ช่วย คือ The Assessor for General Affairs
2. The Section for Relations with States รับผิดชอบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการแต่งตั้งบิชอปในประเทศต่าง ๆ หัวหน้าหน่วยงาน คือ The Secretary for Relations with States และมีผู้ช่วย คือ The Under-Secretary for Relations with States
นอกจากหน่วยงานทั้งสองข้างต้นแล้วยังมีสมณะกระทรวงต่าง ๆ ซึ่งเทียบได้กับกระทรวงรวม 9 กระทรวง เรียกชื่อตามลักษณะงานในความรับผิดชอบ ได้แก่
1. สมณะกระทรวงหลักความเชื่อ รับผิดชอบเกี่ยวกับการส่งเสริมศรัทธาและศีลธรรมทั่วโลก
2. สมณะกระทรวงการแต่งตั้งนักบุญ รับผิดชอบเกี่ยวกับขั้นตอนการประกาศเป็นนักบุญ
3. สมณะกระทรวงคริสตจักรตะวันออก รับผิดชอบเกี่ยวกับกิจกรรมของคริสตจักรคาทอลิกตะวันออก (ไบแซนไทน์)
4. สมณะกระทรวงมุขนายก รับผิดชอบเกี่ยวกับการตั้งมุขนายกและมุขมณฑล
5. สมณะกระทรวงพิธีกรรมและศีลศักดิ์สิทธิ์ รับผิดชอบเกี่ยวกับกิจกรรมการนมัสการในคริสต์ศาสนา
6. สมณะกระทรวงการประกาศพระวรสารสู่ปวงชน รับผิดชอบเกี่ยวกับกิจกรรมแพร่ธรรมของมิชชันนารีในศาสนจักรในทวีปแอฟริกาและเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
7. สมณะกระทรวงสถาบันชีวิตถวายแล้วและคณะชีวิตแพร่ธรรม รับผิดชอบเกี่ยวกับการส่งเสริมและกำกับดูแลคณะนักบวชคาทอลิกคณะต่าง ๆ
8. สมณะกระทรวงบาทหลวง รับผิดชอบเกี่ยวกับบาทหลวงและผู้ช่วยบาทหลวงที่มิใช่นักบวช รวมถึงกิจกรรมและวินัยของบาทหลวงประจำมุขมณฑล
9. สมณะกระทรวงการศึกษาคาทอลิก รับผิดชอบเกี่ยวกับเซมินารี รวมทั้งการส่งเสริมและการจัดตั้งสถานศึกษาคาทอลิก โดยเฉพาะ โรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
เศรษฐกิจ
ศาสนจักรวาติกันมีรายได้หลักจากการสนับสนุนทางการเงินขององค์กรคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิกทั่วโลก เงินรายได้นี้เรียกว่า "Peter s Pence" นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการลงทุนต่าง ๆ ภายใต้การบริหารของหน่วยงาน The Patrimony of the Holy See ค่าธรรมเนียมการเข้าชมพิพิธภัณฑ์รายได้จากการจำหน่ายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ดวงตราไปรษณียากร ของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว
ประชากร
คนเชื้อชาติวาติกันไม่มีในโลก มีแต่พลเมืองสัญชาติวาติกันเป็นอย่างมาก นครรัฐวาติกันมีพลเมืองประมาณ 900 คน ประมาณ 200 คนเป็นสตรี และมีคนทำงานในนครวาติกัน 1,300 คน พลเมืองอันประกอบด้วยองค์สันตะปาปา คาร์ดินัล ผู้ปกครองนครรัฐ วาติกัน เจ้าหน้าที่ประจำวาติกัน และทหารสวิสมีหอกโบราณเป็นอาวุธประดับเกียรติ ซึ่งเป็นองครักษ์ของสันตะปาปาประมาณ 100 คน ทหารสวิส มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1506 การแต่งกายของทหารสวิส กล่าวกันว่าเครื่องแบบออกแบบโดย “มีเกลันเจโล” แต่แท้จริงแล้ว "ราฟาเอล" คือบุคคลที่พัฒนาชุดตามอิทธิพลทางศิลปะสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและภาพเขียนของเขา ทหารสวิสทุกคนเป็นชาวสวิส และเป็นคาทอลิกที่ดีทหารสวิสแต่ละคนจะประจำการชั่วระยะหนึ่ง นอกจากนั้นก็ได้แก่เจ้าหน้าที่ทูตวาติกันที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย พลเมืองวาติกันเหล่านี้จะมีสัญชาติวาติกันเฉพาะในขณะดำรงตำแหน่งหรือเป็นภรรยาของพลเมืองวาติกัน หรือเป็นบุตรที่มีอายุไม่เกิน 25 ของพลเมืองวาติกัน บุตรคนใดอายุถึง 25 ปี ต้องกลับคืนสัญชาติเดิม ผู้ถือสัญชาติวาติกัน หากพ้นตำแหน่งเมื่อใดก็ต้องคืนสู่สัญชาติเดิมของตน พร้อมด้วยบุคคลทุกคนในครอบครัวที่ถือสัญชาติวาติกัน หากชาติเดิมของตนไม่ยอมรับให้ขอสัญชาติอิตาลีซึ่งรัฐบาลอิตาลีมีข้อผูกมัดต้องรับเสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น